แวะอ่านตอนที่ (10) ที่นี่จ้า >> เที่ยวญี่ปุ่น ซากุระ (10) เที่ยวโตเกียวด้วยตัวเอง โตเกียวทาวเวอร์ โอไดบะ พระราชวังอิมพีเรียล ฮาราจุกุ

เช้าวันนี้ก่อนไปสนุกสุดเหวี่ยงกันที่ โตเกียวดิสนีย์ซี เรามาแวะเที่ยวกันที่ ศาลเจ้าเมอิจิ กันก่อน อันที่จริงศาลเจ้าแห่งนี้ ไม่ได้อยู่ในแพลนเที่ยวหลักๆ ของเราตั้งแต่แรก แต่ด้วยความที่เราอยากไปมากมาย เลยไปอ้อนวอนเดอะแกงค์ขอให้แวะเที่ยวประเดี๋ยวนึง พอเดอะแกงค์ใจอ่อน เลยได้จับยัดลงตารางเที่ยวของวันนี้ไป

วิธีการเดินทาง Tokyo Metro Chiyoda Line ลงที่สถานี MEIJIJINGUMAE

บริเวณหน้าทางเดินเข้าศาลเจ้าเมอิจิ จะพบกับเสาโทริอิ ต้นใหญ่มว๊ากกกก พอเราไปยืนถ่ายรูปด้วยเหมือนเราเป็นแค่ปรสิตไคจูเกิดใหม่ มายืนอยู่ข้างๆ ขาของเยเกอร์

ระหว่างทางเดินเข้าสู่ศาลเจ้า เงียบสงบ บรรยากาศดีมากๆ สองข้างทางร่มรื่นไปด้วยต้นไม้ใหญ่ จากภาพนี้ หากเป็นช่วงใบไม้เปลี่ยนสี คงจะสวยงามสุดๆ ไปเลย

ถังเหล้าสาเก ที่คนนำมาบูชาเทพเจ้า ตั้งเรียงรายมากมาย

ที่บริเวณทางเดินเข้าศาลเจ้า มีการตั้งป้ายประวัติความเป็นมา การใช้ชีวิต และพระราชกรณียกิจของจักรพรรดิเมอิจิให้ได้ศึกษา รวมถึงประวัติบุคคลสำคัญท่านต่างๆ ของญี่ปุ่นในยุคสมัยนั้นด้วย

ภาพรวมบุคคลสำคัญของประเทศญี่ปุ่น เราก็รู้จักเพียงไม่กี่ท่านเอง ก็จะมีซ้ายล่างสุดที่คิ้วเข้มๆ ท่าน ทาคาโมริ ไซโงะ ได้ขึ้นชื่อว่าเป็น The Last Samurai ผู้มีบทบาทต่อสู้ฟื้นฟูอำนาจของจักรพรรดิคืนมาจากระบอบการปกครองแบบโชกุน โดยเพื่อนๆ สามารถชมอนุสาวรีย์ของท่านไซโงะได้ที่สวนอูเอโนะ เดี๋ยวในวันพรุ่งนี้เราจะมีภาพมาให้ชม

อีกท่านหนึ่งทางขวามือแถวที่สอง คนที่นั่งด้านล่าง ท่าน คิโดะ ทาคาโยชิ อีกหนึ่งรัฐบุรุษของญี่ปุ่น ที่ร่วมต่อต้านรัฐบาลโชกุนโทคุงาวะ และเป็นผู้เกี่ยวข้องในการร่างคำปฏิญาน 5 ประการ ริเริ่มนโยบายการรวมศูนย์อำนาจสู่รัฐบาล และมีส่วนร่วมในการยกเลิกระบบแว่นแคว้นในประเทศญี่ปุ่น

อีกท่านหนึ่งหลายๆคนคงรู้จักกันดี ทางด้านขวาบนสุด ซามูไรผมหยิกๆ ท่าน ซาคาโมโตะ เรียวมะ เป็นซามูไรผู้มีบทบาทสำคัญในการเคลื่อนไหวล้มระบอบการปกครองของโชกุนตระกูลโทคุงาวะ และปฏิรูปประเทศญี่ปุ่นให้ก้าวสู่ความทันสมัย เราเริ่มรู้จักท่านเรียวมะ ได้จากสื่อต่างๆ ตั้งแต่เรียนประวัติศาสตร์สมัยมัธยมแบบผ่านๆ จนหลายปีผ่านไปได้อ่านการ์ตูนเรื่อง เรียวม่า และล่าสุดเมื่อไม่กี่ปี ได้ดูซีรีย์ญี่ปุ่น จิน หมอทะลุศตวรรษ ก็มีตัวละคร ซามูไร เรียวมะ อยู่ในเรื่องด้วย

ผ่านป้ายประวัติบุคคลสำคัญต่างๆ เดินมาเรื่อยๆ สักประเดี๋ยวก็ถึงบริเวณหน้าศาลเจ้าเมอิจิ ก่อนเข้าศาลเจ้าตามธรรมเนียมก็ควรล้างมือ บ้วนปากก่อน

ผู้คนทยอยมาสักการะ และขอพรกันมากมาย ทั้งคนญี่ปุ่นและนักท่องเที่ยวต่างชาติ

บริเวณรอบศาลเจ้า ร่มรื่น ต้นไม้เยอะมากๆ

เดี๋ยวเข้าไปสักการะด้านในกันบ้าง

บริเวณด้านในศาลเจ้ามีกลอนวากะ ถ้าเราแปลไม่ผิดน่าจะเป็นกลอนชนิดหนึ่งที่จักรพรรดิเมอิจิประพันธ์ขึ้น มีให้หยิบมาอ่านเป็นกระดาษม้วนเล็กๆอยู่ ซึ่งเราคาดว่าไม่ได้ให้อ่านฟรี หากใครอยากอ่าน หรืออยากเก็บเป็นที่ระลึก ก็จ่ายเงินเพียง 100 เยนเท่านั้น เราก็ไม่พลาดหยิบมาสะสมไว้ด้วย 1 ม้วน

หากใครเขียนป้ายขอพร ก็สามารถนำป้ายมาแขวนไว้ได้ที่ใต้ต้นไม้ใหญ่ตรงนี้

ออกจากศาลเจ้า ตรงบริเวณใกล้ๆกัน มีสวนขององค์จักรพรรดิเมอิจิอยู่ด้วย พวกเราก็ไม่พลาดเข้าชมกัน โดยต้องซื้อตั๋วเข้าชมที่หน้าทางเข้าก่อน ราคา 500 เยน

Meiji Jingu Gyoen (Meiji Jingu Gardens) สร้างขึ้นเพื่อเป็นที่พักผ่อนหย่อนใจขององค์จักรพรรดิเมอิจิ และองค์จักรพรรดินี โดยออกแบบเป็นสวนสไตล์ไอริส มีทางเดินเล็กๆ ชมสวน มีจุดตกปลา และมีพรรณไม้ต่างๆ มากมาย

บริเวณท่าน้ำ จุดตกปลา และเป็นที่พักผ่อนหย่อนใจ

ช่วงที่เราเข้าไปชมสวนจักรพรรดินี้ เป็นช่วงที่กำลังเพาะปลูกอยู่พอดี มาเร็วไปหน่อย เลยไม่มีดอกไม้ ต้นไม้ สีสันแปลกตาให้เห็นเท่าไร แต่ถ้าอยากดูความงดงามของสวนนี้เราว่าถ้าเป็นช่วงใบไม้เปลี่ยนสี หรือช่วงที่มีหิมะปกคลุม คงสวยสุดๆไปเลย

สองข้างทาง ยังคงอยู่ในช่วงเพาะปลูกอยู่ จึงดูโกร๋นๆ แห้งแล้งไปนิด

แต่หากมาเที่ยวช่วงที่ดอกไม้บานเต็มที่แล้ว จะสวยงามแบบนี้ (ภาพประกอบจากอินเทอร์เน็ต)

และหากมาช่วงใบไม้เปลี่ยนสี ก็จะสวยไปอีกแบบ (ภาพประกอบจากอินเทอร์เน็ต)

และนี่ก็เป็นภาพช่วงหิมะ ก็ดูสวยมีเสน่ห์ไปอีกแบบ (ภาพประกอบจากอินเทอร์เน็ต)

แม้จะไม่มีดอกไม้สวยๆ ให้ชม แต่อากาศก็ดีมากเลยทีเดียว ^^

พวกเราเดินเก็บบรรยากาศไปเรื่อยๆ

เปลี่ยนบรรยากาศมาชมความสวยงามของพวกต้นไม้ใหญ่กันบ้าง

ใบไม้ย้อนแสง สีเหลืองน่ารัก

ปิดท้าย อำลาสวนจักรพรรดิกันด้วย ดอกไม้น้อยๆ สามดอกนี้ ไว้คราวหน้าหากมีโอกาส จะกลับมาซ่อมที่นี่ใหม่ ตอนนี้ก็สิบโมงแล้ว เราไปบุกเป้าหมายต่อไปเลยดีกว่า เล็ทสะโกวว โตเกียวดิสนีย์ซี……

มาถึงโตเกียวดิสนีย์ซี เกือบ 11 โมงแน่ะ แต่พวกเราทำใจมาล่วงหน้าแล้ว เรื่องเที่ยวสวนสนุก เราอาจจะไม่ได้เล่นเครื่องเล่นครบเท่าที่เราอยากเล่น ถือว่ามาเก็บบรรยากาศก็ยังดี

บรรยากาศบนรถไฟดิสนีย์ ผู้คนประปราย สบายๆ ไม่เบียดเสียด ถือว่าเป็นสัญญาณที่ดีรึเปล่านะ เราคิดในแง่ดีไว้ก่อน ^^

ถึงแล้วจ้าาา โตเกียวดิสนีย์ซี

เห็นฉากภูเขาไฟด้านหน้าก็เริ่มตื่นเต้นแล้ววววว……เข้าไปสู่ความสนุกทางด้านในกันดีกว่า

บรรยากาศด้านใน ทำออกมาได้ค่อนข้างสมจริง ดูแล้วพลอยเกิดอาการสนุก ตื่นเต้นไปด้วยเลย

 

 

 

เมื่อเราเดินเข้ามาแล้ว เราจะอยู่ในส่วนของโซน Mediterranean Harbor ทางด้านซ้ายกำลังมีโชว์เต้นประกอบเพลงอยู่พอดี พวกเราอาศัยช่วงคนกำลังดูโชว์นี้ ไปเล่นเครื่องเล่นกันก่อนดีกว่า

พวกเรากางแผนที่ และมุ่งหน้าเดินไปจุดแรก คือ DisneySea Transit Steamer Line เป็นเรือล่องแม่น้ำชมวิวแบบชิลๆ โดยมีเส้นทางเริ่มต้นที่โซน Mediterranean Harbor ไปสู่โซน Lost River Delta พวกเราเลยกะว่า ใช้เรือนี้เป็นตัวช่วยร่นเวลาในการเดิน ล่องเรือนี้ไปเริ่มเล่นจากเครื่องเล่นด้านในสุด ในโซน Lost River Delta แล้วค่อยย้อนออกมาทางด้านหน้านี้ เป็นแนวสวนทางกับคนอื่นๆ เผื่อว่าคนจะได้ไม่เยอะมาก

สามารถดูแผนที่ประกอบได้จากที่นี่ >> http://www.tokyodisneyresort.co.jp/en/access/mapdownload/pdf/EN_TDS_atr.pdf

เรือแล่นมาได้สักครู่ เราก็มาจอดเทียบท่าที่โซน Lost River Delta

โดยจุดหมายแรกเราจะไปตะลุยเครื่องเล่น Indiana Jones Adventure เดินเข้าไปด้านใน คนไม่เยอะด้วย รอแป๊บเดียว โชคดีจัง

และนี่คือสภาพขณะนั่งรถผจญภัย มีคนรู้งานเก๊กท่าด้วยอะ ส่วนเราหน้ายังเหวออยู่เลย โดยรวมแล้วเราชอบเครื่องเล่นอินเดียน่าโจนส์อันนี้มากๆเลย สนุกดี เอฟเฟกต์ก็ดี หากใครมีโอกาสลองไปเล่นกันดูนะ สนุกมากๆ

ต่อจากโซน Lost River Delta เดินมาเรื่อยๆ มาต่อกันที่โซน Arabian Coast เดี๋ยวเราไปล่องเรือชมซินแบดผจญภัยกัน

 Sindbad’s Storybook Voyage เป็นการล่องเรือชมเรื่องราวของซินแบด ระหว่างทางจะมีการพากย์ (ญี่ปุ่น) และมีเสียงเพลงประกอบ ตัวละครต่างๆ ขยับท่าทางได้ตามเพลง โดยรวมเราชอบมากเช่นกัน ทำออกมาได้สวย ได้ฟังซินแบดพูดญี่ปุ่นด้วย แปลกดี อิอิ

ออกจากการล่องเรือชมเรื่องราวของซินแบดแล้ว เราก็เดินชมวิวในโซน Arabian Coast ไปเรื่อยๆ

แดดกำลังร้อน ช่างเข้ากับสถานที่จริงๆ

เจ้าอูฐตัวนี้ เราไปขี่มาแล้ว อิอิ ^__^

 

สถาปัตยกรรมต่างๆ ทำออกมาได้สวยดี เราชอบโซนนี้เป็นพิเศษ

ออกจากโซน Arabian Coast แล้ว เรามาต่อกันที่โซน Mermaid Lagoon

เราพักทานข้าวกลางวันกันแถวๆ นี้ หลังจากนั้นเราจะเข้าสู่ห้วงมหาสมุทร ชมเงือกน้อยแอเรียลแหวกว่าย พร้อมร้องเพลงให้ฟัง ชมกันแบบมิวสิเคิ่ลกันไปเลย ที่ Mermaid Lagoon Theater โดยภายในโรงละครจะห้ามถ่ายภาพ หลังโชว์จบแล้วเราก็ชอบการแสดงนะ ทำออกมาได้ดี เวลาชมไม่ควรยึดติดกับความเป็นจริงมาก ให้ปล่อยใจไปตามการแสดงไปตามเนื้อเรื่องจะสนุกดี ถ้าเราเป็นเด็กๆ คงจะอินกว่านี้มากขึ้นเป็นพิเศษ

จากโซน Mermaid Lagoon เรามาต่อกันที่โซน Mysterious Island

เราจะลงเรือดำน้ำ ชมความงามและพบกับความตื่นเต้นใต้มหาสมุทรแอตแลนติกกันที่ 20,000 Leagues Under the Sea ในส่วนของเครื่องเล่น Journey to the Center of the Earth ในห้องหัวใจทั้งสี่ห้องของเรานั้น ห้องนึงก็อยากเล่น แต่อีกสามห้องมันไม่ยอม เราเลยไม่ได้เล่น เพราะเราแก่แล้ว ปอดแหก 55

ถัดจากโซน Mysterious Island มาต่อกันที่โซน Port Discovery เราจะไปเล่น Storm Rider กันเป็นอย่างแรก

ออกมาจาก Storm Rider เจอกับตัวละครใน The Incredibles

น่ารักดี เฟรนลี่สุดๆ กำลังบอกทาง ชี้โบ๊ ชี้เบ๊ อะไรก็ไม่รู้ ตลกมากๆ 55

ออกจาก Storm Rider มาต่อกับเจ้าเครื่องเล่นสุดฮาอันนี้ Aquatopia เราชอบเครื่องเล่นนี้มากๆ ฮาดี ตอนแรกๆ เราคิดว่าจะเหมือนเรือบั๊มพ์ที่เราสามารถบังคับเองได้ แต่จริงๆ แล้ว มันเป็นเรือที่วิ่งไปตามเซนเซอร์สี ที่ขีดไว้ที่พื้นด้านล่าง โดยมันจะพาเราวิ่งไปทางไหนบ้างนั้น เราไม่สามารถรู้ได้เลย บางทีก็เดินหน้า ถอยหลัง วนรอบตัวเอง พาไปประจันหน้ากับน้ำตกมั่ง เกือบจะชนหินมั่ง ฮามาก สนุกสุดๆ เลย ^0^

หลังจากเล่น Aquatopia เรือสุดฮาเสร็จ เรามาเดินชมบรรยากาศบริเวณโซน Port Discovery กันบ้าง

บรรยากาศยามเย็น สวยไปอีกแบบ

 

ระหว่างทางเดิน มีการประดับประดาดอกไม้ตามทางเดิน ต้อนรับฤดูใบไม้ผลิ

 

จากโซน Port Discovery เดินชมบรรยากาศมาเรื่อยๆ จนถึงโซน American Waterfront

 

นี่คือหน้าตาเครื่องเล่นหวาดเสียว Tower of Terror เราไม่ได้เล่นแน่นอน เพราะเราป๊อดดด….แต่เดอะแกงค์ที่ไปเล่นมาบอกว่าหวาดเสียวมาก

เราจึงเดินถ่ายรูปบรรยากาศบริเวณแถวนั้นแทน

จากโซน American Waterfront เดินวนกลับมาที่โซน Mediterranean Harbor อีกครั้ง เราจะไปนั่งเรือกอนโดล่า ชมวิวอ่าวเมดิเตอเรเนี่ยนยามเย็นกันที่ Venetian Gondolas

บรรยากาศจำลองเมืองเวนิส ที่อิตาลี

ลงเรือมาแล้วววว

ระหว่างที่อยู่ในเรือ ตั้งแต่เริ่มต้น จะมีคนพายเรือเป็นคนเอนเตอร์เทนพวกเราตลอดเวลา โดยเริ่มแรกเค้าจะสอนให้พวกเราทักทายสวัสดีเป็นภาษาอิตาลี โดยให้พูดตามว่า Chao (ช้า-โอววว) พวกเราก็พูดตามกันทั้งลำ หากมีเรือแล่นสวนมา เค้าก็จะทักทายเราว่า Chao เราก็ต้อง ช้าโอววว กลับไป 555 สนุกดี

คนที่คอยเอนเตอร์เทนพวกเรา หน้าตาเค้าจะยิ้มมีความสุขตลอดเวลา นอกจากจะสอนพวกเราพูดทักทายแล้ว ยังไม่หมดเพียงเท่านั้น เค้ายังร้องเพลงให้คนทั้งเรือฟังตลอดทางเลยด้วย การล่องเรือกอนโดล่าในยามเย็น ช่างเป็นบทสรุปที่มีความสุขสำหรับการท่องเที่ยวโตเกียวดิสนีย์ซีจริงๆ

แสงสุดท้ายของวัน ที่โตเกียวดิสนีย์ซี

ฟ้ามืดลงแล้ว ได้เวลาอันสมควรบอกลาโตเกียวดิสนีย์ซี พรุ่งนี้เราจะไปฮานามิใต้ต้นซากุระกันที่สวนอูเอโนะ และต่อด้วยเที่ยวโตเกียวดิสนีย์แลนด์ สำหรับวันนี้ สนุกและมีความสุขมาก เจอกันใหม่พรุ่งนี้จ้าาา…..
ดูบันทึกการท่องเที่ยวญี่ปุ่น ตามรอยซากุระย้อนหลัง ที่นี่

เที่ยวญี่ปุ่น ซากุระ (1) วางแผนเที่ยวญี่ปุ่น

เที่ยวญี่ปุ่น ซากุระ (2) เที่ยวโอซาก้า ปราสาทโอซาก้า Osaka Aquarium

เที่ยวญี่ปุ่น ซากุระ (3) เที่ยวโอซาก้า วัดชิเทนโนจิ หอคอยซึเทนคะคุ ออนเซน ที่ Spa World

เที่ยวญี่ปุ่น ซากุระ (4) เที่ยวฮิโรชิม่า เกาะมิยาจิม่า ศาลเจ้าลอยน้ำ เมืองเก่าคุราชิกิ

เที่ยวญี่ปุ่น ซากุระ (5) เที่ยวเกียวโตด้วยตัวเอง ศาลเจ้าฟูชิมิอินาริ เสาโทริอิหมื่นต้น วัดน้ำใส คิโยมิสึเดเระ ย่านกิออน

เที่ยวญี่ปุ่น ซากุระ (6) เที่ยวเกียวโต อาราชิยาม่า ปราสาทนิโจ รถไฟสายโรแมนติก ป่าไผ่ Sagano วัดทอง Kinkakuji หอคอยเกียวโต

เที่ยวญี่ปุ่น ซากุระ (7) เที่ยวคามาคุระ-โยโกฮาม่า

เที่ยวญี่ปุ่น ซากุระ (8) เที่ยวฮาโกเน่ Hagone ชิมไข่ดำ Owakudani ล่องเรือโจรสลัด ทะเลสาบอาชิ Ashi Lake

เที่ยวญี่ปุ่น ซากุระ (9) ชมภูเขาไฟฟูจิ ทะเลสาบคาวากุจิโกะ Kawagujiko Lake เจดีย์แดง Chureito Pagoda

เที่ยวญี่ปุ่น ซากุระ (10) เที่ยวโตเกียวด้วยตัวเอง โตเกียวทาวเวอร์ โอไดบะ พระราชวังอิมพีเรียล ฮาราจุกุ

เที่ยวญี่ปุ่น ซากุระ (11) โตเกียวดิสนีย์ซี Tokyo Disney Sea ศาลเจ้าเมอิจิ Meiji Jingu Shrine

เที่ยวญี่ปุ่น ซากุระ (12) ฮานามิที่สวนอุเอโนะ โตเกียวดิสนีย์แลนด์ Tokyo Disney Land ฮาจิโกะ Shibuya ไก่ทอดยามะจัง

เที่ยวญี่ปุ่น ซากุระ (13) วัดอาซากุสะ Sensoji Temple Asakusa ชมซากุระริมฝั่งแม่น้ำซูมิดะ Sumida Park

Travel by deeryarch