หนีน้ำ เที่ยวหัวหิน ตอนที่6 อุทยานแห่งชาติเขาสามร้อยยอด-วัดห้วยมงคล

แวะอ่านตอนที่ 5 ที่นี่จ้า >> หนีน้ำ เที่ยวหัวหิน ตอนที่5 ย้อนรำลึกวันวาน 100 ปี รถไฟหัวหิน

วันนี้พวกเราออกจาก อ.หัวหิน ตั้งแต่แปดโมงเช้า เนื่องจากมีแพลนเที่ยวกันที่อุทยานแห่งชาติเขาสามร้อยยอด ซึ่งอยู่ห่างจาก อ.หัวหิน ประมาณ 60 กม.

เมื่อมาถึงหน้าทางเข้าที่ด่านตรวจอุทยานฯ เราก็ลงไปซื้อตั๋วค่าเข้าอุทยานกัน เจ้าหน้าที่สอบถามว่า มาจากไหนกัน พวกเราบอกว่า มาจากกรุงเทพฯ หนีน้ำมาอยู่ มาเที่ยวที่ประจวบคีรีขันธ์กัน ทางเจ้าหน้าที่เลยบอกว่า ตอนนี้มีนโยบาย นักท่องเที่ยวท่านใดหนีน้ำมาเที่ยว เข้าฟรีไม่เสียเงินสักกะบาทเลยจ้าาาา……..เย่!!!!!!

หลังจากขับรถเลยเข้ามาจากด่านตรวจอุทยาน สองฝั่งข้างทางเต็มไปด้วยพื้นที่กว้างๆ บ้างก็ทำนากุ้ง แต่ส่วนใหญ่จะว่างเปล่า และประกาศขายด้วย พวกเราก็ไม่ค่อยรู้ทาง ตามป้ายมาเรื่อยๆ รู้สึกจะเจอป้ายขายที่ดินง่ายกว่าป้ายท่องเที่ยวอีกนะ

ขับมาสักพักก็มาถึงชายหาด บ้านบางปู

เราจอดรถไว้ที่นี่ และถามหาเรือเพื่อเช่าไปส่งที่หาดทางขึ้นถ้ำพระยานคร ก่อนขึ้นเรือได้มีโอกาส เห็นปลาโลมาสีชมพู แหวกว่ายม้วนตัวเหนือผิวน้ำให้ได้ชมด้วย โชคดีจัง แต่เสียดายที่ถ่ายรูปมาได้ไม่ทัน

ค่าบริการเรือรับส่ง 300 บาท ซึ่งก็ถือว่าโอเค ไม่แพงมาก แต่สำหรับใครที่อยากผจญภัย หรืออยากออกกำลังกาย แนะนำให้เดินจากหาดบ้านบางปู เข้าที่ถ้ำพระยานครได้เลย มีทางเดินให้เรียบร้อย แต่สำหรับพวกเรา ขอออมแรงขา และทำเวลาไว้ปีนเขาเที่ยวถ้ำพระยานคร ดีกว่า

ระหว่างทางได้เห็นวิวเขานมสาว

เรือแล่นมาประมาณ 15-20 นาที ก็มาจอดเทียบท่าชายหาดแหลมศาลา

ชายหาดมีเปลือกหอยเยอะมาก ทรายที่ชายหาดมีลักษณะเป็นเหมือนเปลือกหอยป่น เล็กๆๆ ซึ่งเราระแวงระวังมาก กลัวจะบาดเท้า

ชายหาดบรรยากาศดี น่านอน

เดินไปตามทางต้นสนเหล่านี้ ตรงไปเรื่อยๆจะพบกับทางเดินสู่ถ้ำพระยานคร

เดินมาได้แป๊บนึงจะพบกับ บ่อพระยานคร

รายละเอียดตามนี้เลยจ้าาา……

ดูเผินๆ ไม่รู้ลึกแค่ไหน

จากบ่อพระยานคร เดินตรงตามทางมาเรื่อยๆ

ถึงแล้ววว ทางขึ้นไปถ้ำพระยานคร จากตรงนี้ ต้องเดินขึ้นไปอีกประมาณ 430 เมตรแม้ว

โปรดพิจารณาก่อนขึ้น

ทางขึ้นมีลักษณะเป็นภูเขาหิน มีทางชันเล็กน้อยถึงปานกลาง แบบนี้ตลอดทาง

ขึ้นมาได้สักพัก เจอกับจุดพักผ่อน หรือที่เราเรียกมันว่า ซำแฮก

จากตรงนี้มองออกไป ได้วิวทะเลที่สวยมาก

เดินไปพักไป อยู่พักหนึ่ง ก็มาถึงปากทางเข้าถ้ำพระยานครแล้ว

โดยภายในถ้ำ มีจุดต่างๆที่น่าสนใจ ดังนี้

1.น้ำตกแห้ง
2.สะพานมรณะ
3.ทางสันจระเข้
4.หินรูปเจดีย์
5.พระที่นั่งคูหาคฤหาสน์
6.ลายพระหัตถ์
7.อัฐิหลวงพ่อเงิน
8.ต้นซุ้มรอดคู่
9.หินจระเข้
10.ต้นไม้มีพิษ

เดี๋ยวเราจะตามชมทั้งสิบที่นี้ให้ครบเลย เล็ดสะโกวววว

จุดแรก เมื่อเดินเข้ามา จะเจอกับ น้ำตกแห้ง เป็นหินย้อยลักษณะเป็นเหมือนน้ำตก ตกลงมาเป็นชั้นๆ สวยงามมาก แต่แอบคิดอยู่ในใจว่าแต่ก่อนต้องเป็นน้ำตกมาก่อนแน่ๆ เหมือนซะขนาดนี้

จุดต่อไป ตามแผนที่บอกว่าจะเจอกับสะพานมรณะ เรามองหาเท่าไรก็ไม่เห็นเลย เราจึงเลยไปชมจุดอื่นๆ ก่อน

หลังจากที่ขึ้นๆๆๆ เขามาตลอด ตอนนี้เจอกับทางลงไปที่ถ้ำบ้าง

สูงเหมือนกันนะเนี่ย ดูพ่อสิ ผู้ชาย 170 กว่าๆ เหลือตัวนิดเดียว

ระหว่างทางขึ้นมาที่ถ้ำพระยานคร พวกเราได้นั่งพักเหนื่อยกลางทาง เจอกับชาวต่างชาติผู้หญิง เค้าทักพวกเราว่า (แปล) ใกล้ถึงแล้ว เราเลยถามเค้าว่า สวยไหม เค้าบอกว่า สวยงามมาก เมื่อเราเดินใกล้เข้าไปเจอกับภาพนี้ ขนาดยังไม่เห็นเต็ม ยังถึงกับต้องร้องออกมาเหมือนกันว่า มันสวยมาก…….

พระที่นั่งคูหาคฤหาสน์ สวยงามจริงๆ สมกับที่เป็น Unseen in Thailand

เข้ามาดูใกล้ๆ ถึงแม้ว่าจะไม่ใช่เวลาที่แสงแดดส่องมาตรงกับพระที่นั่ง แต่ก็ยังคงความสวยงามอยู่

ข้างๆพระที่นั่ง มีรอยจารึกลายพระหัตถ์ของสามพระมหากษัตริย์ไทย ที่ได้ทรงเคยเสด็จมาที่นี่

พระที่นั่ง จากมุมสูง

เป็นคนเดียวที่ปีนขึ้นมาเดินข้างบนเพราะคิดว่ามันเดินง่ายกว่า แต่ว่า ระหว่างทางเดิน เต็มไปด้วยกอของ ต้นไม้มีพิษเหล่านี้

ใบมันวาว สวยดี แต่เห็นชื่อแล้วแทบไม่อยากให้มันถูกตัวเลย ก่อนหน้าที่จะมา ด้วยความสงสัยว่าต้นไม้มีพิษจริงๆ หรือแค่ชื่อเท่านั้น เลยได้หาข้อมูลมาก่อน พบว่า หากมาเที่ยวที่ถ้ำพระยานคร พบต้นไม้ใบมันวาวห้ามไปสัมผัสโดนใบ เนื่องจาก ต้นไม้นี้มีพิษเมื่อสัมผัสโดนผิว จะมีอาการ ปวดแสบปวดร้อน

หินจระเข้ หากมองข้างๆ จะเหมือนจระเข้เชิดหัวขึ้นมา เหมือนมากๆ

หินรูปเจดีย์

ต้นซุ้มรอดคู่

เป็นที่น่าสังเกต ผนังถ้ำฝั่งทางเข้าออกถ้ำ จะมีสีเขียว

และนี่เป็นหินย้อยที่เป็นรูปสัตว์ชนิดหนึ่ง จำไม่ได้แฮะ ว่าทางอุทยานเค้าเรียกว่าอะไร มัวแต่เรียกจามรี กันจนติดปาก ลืมชื่อที่แท้จริงไปเลย มันน่านักนะเรา

ทางสันจระเข้ มีลักษณะเป็นตะปุ่มตะป่ำ เหมือนเดินบนหลังจระเข้ เดินไปจินตนาการไป หากเป็นจระเข้ยักษ์ที่หลับไหลมานับพันปี วันดีคืนดี ตื่นขึ้นมาตอนเราเดินไปพอดี คงน่ากลัวมาก ยึ้ยๆ ><”  คิดไปกลัวไป บ้าจริงๆ

เฮ้อ!! เดินออกมาแล้ว เหลือภารกิจสุดท้าย เจอกับป้ายสะพานมรณะ มองซ้ายมองขวา ไหนฟระ ไม่ยักกะเห็น ยืนเท้าเอวเงยหน้ามองฟ้า ก็เลยเจอดีเข้าให้

นี่แหละ สะพานมรณะ เหมือนในรูปที่ดูมาเลย โฮ้ววว อยู่ข้างบนนี่เอง เรานี่นะ โง่แท้เหลา!!
ที่มาของชื่อสะพานมรณะ เหตุที่ชื่อนี้ก็เพราะว่า ที่สะพานตรงนี้จะมีสัตว์ป่าตกลงมาตาย อยู่บ่อยๆ นั่นเอง

ด้วยความหวังดี กลัวคนอื่นไม่เห็นเหมือนเรา จึงนำไม้ไปปักทำเป็นลูกศรไว้ให้ ฮ่าๆๆ
ได้เวลาอันสมควรแล้ว บอกลาถ้ำพระยานครที่แสนงาม

เหนื่อยมากเลย ซื้อน้ำอัดลมเย็น มานั่งจิบให้หายเหนื่อยริมชายหาด

ทอดมันปลากราย

หล้งจากนั่งเรือกลับมาที่หาดบ้านบางปู เราก็มาพักผ่อน กินข้าวกลางวันกัน ที่ร้านแถวๆนั้น ราคาก็โอเค ไม่แพงมาก แต่ก็ยังอยู่ในเรทนักท่องเที่ยว

กุ้งผัดกระเทียมพริกไทยราดข้าว

ปูนึ่ง

ออกจากถ้ำพระยานคร เรามาต่อกันที่จุดชมวิวเขาแดง

จากทางเข้าติดถนนใหญ่ ขับมานิดเดียว ก็จะไปต่อไม่ได้แล้ว ต้องจอดรถแล้วเดินไป มีป้้ายติดว่า ติดต่อเจ้าหน้าที่ เราก็นึกว่า เข้าไปจะมีซุ้มเล็กๆ ให้ติดต่อ แต่ไม่มีอะไรเลย ป่าล้วนๆ

จากตรงนี้ เดินเข้าไปอีกราว 322 เมตรแม้ว

ก่อนหน้านี้ สมาชิกถามว่า จุดเที่ยวต่อไปมีปีนเขาอีกไหม ด้วยความที่เราไม่เคยมา ประกอบกับอ่านในเว็บมาบอกแค่ว่า ขับรถไปที่ตรงนี้ ตรงนั้น เราจึงตอบสมาชิกคนอื่นไปว่า ไม่มีแล้ว ขับรถเที่ยวได้ พอมาถึงจริงๆ ปีนเขาอีกแล้วววว ขอโทษนะ ทุกๆ คลลลล 😀

ระหว่างทาง มีลูกศรเล็กๆ บอกเป็นระยะ

ตามข้างทาง มากมายไปด้วยต้นกระบองเพ็ชร สมาชิกบางคนเสียการทรงตัวเผลอเอามือไปคว้า บ้างก็ไม่ทันสังเกตคิดว่าเป็นต้นไม้ธรรมดา ก็คว้าเข้าให้

เดินระวังหน่อยนะฮะ

หินอะไรเนี่ย ?? เขี้ยวหนุมานใช่เปล่า ใครรู้ช่วยบอกที เจอหินแบบนี้ตามทางเยอะแยะเลย

เดินมาสักพักใหญ่ และแล้วเราก็ได้พบเนิน ที่อาจจะเป็นซำแฮกให้เราได้พักเหนื่อยกัน

วิวจากเนินที่เราพักเหนื่อย มองออกไปเจอทะเล

หลังจากพักเหนื่อยแล้ว เราเดินทางกันต่อ ทางต่อจากนี้จะหฤโหดขึ้นมาอีกขั้น ทางจะเป็นลักษณะหินผาชัน เกือบๆ 90 องศา ต้องอาศัยแรงปีนขึ้นไป

จากเส้นทางหฤโหดที่ว่า หันหลังกลับมา จะพบกับวิวสวยงามเช่นนี้

โห…ทางนี้มันโหดสำหรับประชาชนคนธรรมดาอย่างเราจริงๆ ต้องค่อยๆปีน ขึ้นไปอย่างระมัดระวัง

หลังจากปีนมาอย่างขมักเขม่น ถึงแล้วจ้าาาาา จุดชมวิวเขาแดง

วิวสวยงาม กว้างไกลสุดลูกหูลูกตา

สวยจัง

เพลินตาเพลินใจกับวิวสวยๆ คุ้มค่ากับการปีเขาจริงๆ

จะบอกว่า จุดชมวิวเขาแดง แห่งนี้ พอขึ้นมาถึงจุดชมวิวแล้ว ไม่ได้มีที่ยืนชมวิวเป็นกิจลักษณะ เพราะมันคือ ยอดเขา ขอย้ำว่า!! มันคือยอดเขาจริงๆ (นี่ชั้นปีนเขาหนึ่งลูก จนมานั่งบนยอดเขาโดยไม่รู้ตัวนะเนี่ย) ฉะนั้น ต้องกระทำการทุกอย่างด้วยความระมัดระวังนะจ๊ะ เขาสูงจริง เสียวจริง ตกจริง นะจะบอกให้

และสุดท้าย ไม่ลืมว่า ครั้งหนึ่งในชีวิต ฉันเคยพิชิตยอดเขาแดง 😀

ออกจากเขาแดงมาด้วยความเหนื่อยสุดๆ รู้ตัวอีกที อยู่หน้าทางเข้าวัดห้วยมงคลแล้ว

ขณะนี้เวลาสามทุ่มแล้ว แต่ก็ยังสามารถเข้ามากราบนมัสการหลวงปู่ได้

ต่อจากนั้น ได้มีโอกาสไปไหว้เจ้าแม่ตะเคียน บรรยากาศสยึมกึ๋ยจริงๆ อยู่ดีไม่ว่าดี คิดเองเออเอง กลัวเองอีกแล้ว เราคงเป็นพวกชอบหลอกตัวเองแน่ๆ ฮ่าๆ

ไม้ตะเคียนต้นใหญ่มาก

จบทริปวันนี้ไปอย่างเต็มอิ่ม เปรมปรีดิ์กับความสวยงามของถ้ำพระยานคร และจุดชมวิวเขาแดง ตบท้ายด้วยการเข้าวัดเข้าวา ทำบุญทำทาน กลับบ้านนอนหลับฝันดี

อ่านบันทึกการท่องเที่ยวหัวหิน ย้อนหลังได้ที่นี่

หนีน้ำ เที่ยวหัวหิน ตอนที่1 ตลาดน้ำสามพันนาม-ตลาดโต้รุ่ง

หนีน้ำ เที่ยวหัวหิน ตอนที่2 เพลินวาน

หนีน้ำ เที่ยวหัวหิน ตอนที่3 รำวงวันลอยกระทง

หนีน้ำ เที่ยวหัวหิน ตอนที่4 สวนสนประดิพัทธ์ เขาตะเกียบ ตลาดจั๊กจั่น Cicada

หนีน้ำ เที่ยวหัวหิน ตอนที่5 ย้อนรำลึกวันวาน 100 ปี รถไฟหัวหิน

หนีน้ำ เที่ยวหัวหิน ตอนที่6 อุทยานแห่งชาติเขาสามร้อยยอด-วัดห้วยมงคล

หนีน้ำ เที่ยวหัวหิน ตอนที่7 ร้านกาแฟเจ๊กเปี๊ยะ ตลาดฉัตรไชย สะพานปลาหัวหิน

หนีน้ำ เที่ยวหัวหิน ตอนที่8 ขาหมูไฮ้เปียง พระราชนิเวศน์มฤคทายวัน

เที่ยวหัวหิน by deeryarch