เที่ยวญี่ปุ่น ใบไม้เปลี่ยนสี (10) Naruko Gorge เที่ยว Sendai

แวะอ่านตอนที่ 9 ที่นี่ >> เที่ยวญี่ปุ่น ใบไม้เปลี่ยนสี (9) ล่องเรือโตรกผา Geibikei Gorge

เช้าวันใหม่ ตื่นแต่เช้ารีบเช็คเอาท์เพื่อที่จะเดินมาให้ทันขึ้นรถเมล์รอบ 08.30 น. ที่หน้าสถานี NARUKO-ONSEN (鳴子温泉駅) เดินออกจากที่พัก มองไปเห็นวิวภูเขากว้างไกล แต่งแต้มไปด้วยสีเขียว เหลือง แดง น้ำตาล เกือบเต็มลูก ถือเป็นนิมิตรหมายอันดีว่าที่ Naruko Gorge (鳴子峡) ใบไม้คงเริ่มเปลี่ยนสีใกล้พีคแบบนี้แล้ว

บรรยากาศยามเช้าที่เงียบสงบ

ตุ๊กตาโคเคชิ (Kokeshi) ตุ๊กตาที่ทำจากไม้ของที่ระลึกขึ้นชื่อของเมือง Naruko

ไม่ว่าจะไปที่ไหน เราก็มักจะเห็นตุ๊กตาโคเคชิได้จากสถานที่ต่างๆ

ที่หน้าสถานี Naruko-Onsen มีบ่อน้ำร้อนให้นั่งแช่เท้าผ่อนคลายกันแบบฟรีๆ ด้วยนะ

นั่งรอที่ป้ายรถเมล์ประเดี๋ยวเดียวรถเมล์ก็มา ดูตารางเวลารถเมล์ที่นี่เลย >> http://www.naruko.gr.jp/file-timetable/bus_momiji.pdf

นั่งรถเมล์ไปประมาณ 13 นาที (ถ้ารถติดน่าจะสักประมาณ 20 นาที Up นะ ^_^) ลงที่ป้าย Narukokyo Nagayamadiragichi (鳴子峡中山平口前) ป้ายจะอยู่ใกล้ๆ กับสะพาน Ofugazawa (鳴子峡中山平口前)

ลงรถเมล์ใกล้ๆ สะพาน เราเลยเดินแวะไปถ่ายรูปบนสะพาน Oufugazawa สักหน่อย บนสะพานคราคร่ำไปด้วยช่างภาพและนักท่องเที่ยวจับจองที่เพื่อรอถ่ายภาพรถไฟแล่นผ่านอุโมงค์ใบไม้เปลี่ยนสี

มองไปที่อุโมงค์รถไฟ รู้สึกว่าเป็นภาพที่สวยงามดีนะ มีใบไม้เปลี่ยนสีแต่งแต้มสีสันเรียงรายล้อมรอบอยู่ มิน่าล่ะ! ใครๆก็ต่างรอคอยที่จะได้ภาพช็อตนี้

จากจุดชมอุโมงค์รถไฟก้มหน้าลงมาจะเห็นสะพาน Kaiko แต่ก่อนเปิดให้เดินลงไปสัมผัสธรรมชาติอย่างใกล้ชิดได้ แต่หลังจากเกิดเหตุการณ์แผ่นดินไหวอย่างหนักที่ Fukushima สะพานนี้ก็ปิดลง แต่ก็สามารถชมได้แบบไกลๆ จากบนสะพาน Oufugazawa นะ ^_^

ชมทิวทัศน์ใบไม้เปลี่ยนสีแบบกว้างๆ ระหว่างรอรถไฟวิ่งผ่านอุโมงค์

Beautiful Autumn at Naruko Gorge.

ยอมรับโดยดี ว่าไม่ได้ทำการบ้านมาเรื่องตารางเวลารถไฟที่จะแล่นผ่านอุโมงค์นี้ เราจึงรอแล้วรอเล่าเฝ้าแต่รอ จนรู้สึกว่านานเกินไป จึงหันไปถามพี่ช่างภาพชาวญี่ปุ่นข้างๆ ปรากฏว่าอีกนานเลยกว่ารถไฟจะมา (โห!!! พวกพี่มาตั้งขารอก่อนหลาย ชม. เลยนะเนี่ย นับถือน้ำใจจริงๆ) จึงตัดสินใจไม่รอรถไฟ เดินไปเที่ยวจุดอื่นๆ กันต่อ

ใครอยากทราบตารางเดินรถไฟสายนี้ ให้ลองเข้าไปที่ Hyperdia หาข้อมูลรถไฟที่วิ่งจากสถานี NAKAYAMADAIRAONSEN กับ NARUKOONSEN ดูนะว่ามีรอบไหนบ้าง จะได้กะเวลาเที่ยวถูก ไม่ต้องรอเก้อแบบเรา

เราเลยเดินกลับมาที่ Naruko Rest House เพื่อมาถ่ายภาพวิวสะพาน Oufugazawa และหาอะไรกินเป็นมื้อเที่ยงสักหน่อย

อีกหนึ่งภาพที่น่าเก็บไว้ ภาพสะพาน Oufugazawa คู่กับวิวใบไม้เปลี่ยนสี สวยงามตามท้องเรื่องจริงๆ

หลังจากทานอาหารกลางวันที่ Naruko Rest House เรียบร้อยแล้ว ออกเดินไปเที่ยวชมใบไม้เปลี่ยนสีในจุดต่อไป ในเส้นทาง Oufugazawa Promenade

วิธีเดินทางไม่ยาก เดินไปทางสะพาน Oufugazawa จนถึงลานจอดรถ จะเห็นป้าย Ofukazawa Promenade จากนั้นข้ามถนน จะเริ่มเข้าสู่เส้นทางชมใบไม้เปลี่ยนสี รวมระยะทาง 1.3 km จ้า

ข้ามถนนมาจะพบกับทางเข้า พร้อมแผนที่เดินชมใบไม้เปลี่ยนสี

ตลอดเส้นทางจะมีป้ายคอยบอกทางอยู่เป็นระยะๆ เดินตามป้ายไปไม่มีหลงแน่นอนจ้า

เดินเหนื่อยนัก ก็หยุดพักเสียก่อน นั่งทอดกายเอาก้นสัมผัสกับม้านั่ง และชมความสวยงามของใบไม้เปลี่ยนสีไปเพลินๆ

ตาต่อตา ชมความงามกันอย่างใกล้ชิด

เดินเที่ยวป่าที่ญี่ปุ่น ต้องระวังเจอหมีด้วยนะจ๊ะ โปรดใส่ใจในคำเตือนทุกอย่างและห้ามออกนอกเส้นทางที่กำหนดไว้ให้ และอย่าคิดไปเองว่าเจอหมีในป่าแล้วจะน่ารักวิ่งมาให้เรากอดแต่โดยดี เจอหน้ากันมีทางเดียวคือต้องเอาชีวิตให้รอดเท่านั้นจ้า!!

นอกจากใบไม้สีส้ม เหลือง แดง สีเขียวสดชื่นก็มีให้ชมนะ

เดินมาจนครบรอบ จะวนมาออกตรงจุดตรงข้ามกับ Naruko rest house พอดี

เดินตามป้ายมาเรื่อยๆ เลย…..

เดินมาจนถึงถนนใหญ่ จะเจอจุด Bus Stop ของรถเมล์ที่จะนั่งกลับไปสถานี Naruko Onsen พอดี ยืนต่อแถวได้เลยจ้า

ณ ขณะนี้อุณหภูมิ 14 องศา

กลับมาถึงสถานีแบบเฉียดฉิวเกินไปหน่อย ขึ้นรถไฟไม่ทันจึงต้องรออีก 1 ชม. ที่นั่งรอในสถานี Naruko Onsen กว้างขวางดี ยิ่งใหญ่ดังอัฒจรรย์สนามกีฬา แถมมีเบาะรองนั่งให้ด้วย

ไหนๆ ก็ต้องรอเกือบ 1 ชม. เราไปหาอะไรกินรองท้องกันก่อนเดินทางไป Sendai กันสักหน่อย

โดยเราก็เลือกร้านตรงข้ามสถานี Naruko Onsen นี่แหละ ใกล้ๆดี ข้ามถนนปุ๊บเจอเลย

เมนูในร้านเป็นอาหารตะวันตกแบบง่ายๆ สปาเก็ตตี้ สลัด ขนมปัง โกโก้ กาแฟ อะไรทำนองนี้ รสชาติก็โอเคนะ แต่ทำช้าไปนิด เกือบขึ้นรถไฟไม่ทันอีกซะแล้ว 555

ตะวันยังไม่ตกดิน เราก็ยังคงเที่ยวต่อไป นั่งชินคันเซนมาประมาณบ่าย 2 กว่าๆ ก็ถึงเซนไดละ

เป้าหมายการท่องเที่ยวต่อไป เดี๋ยวเราจะนั่งรถ Loopple Bus เที่ยวชมเมือง Sendai กัน
รายละเอียดราคา,ตารางเดินรถดูที่นี่เลยจ้า >> Sendai Loople Bus

โดยจุดแรกเรามาลงที่ป้ายหมายเลข 6 ที่ปราสาทเซนได (Sendai Castle) หรือปราสาทอาโอบะ (Aobajo) / พิพิธภัณฑ์ปราสาทอาโอบะ (Aoba Castle Museum)

จุดที่เคยเป็นปราสาทอาโอบะในอดีต ซึ่งตอนนี้เหลือไว้เพียงซากหินฐานปราสาท เนื่องจากปราสาทอาโอบะได้ถูกเผาทำลายไปเมื่อสมัยมีสงคราม และไม่ได้รับการบูรณะหรือสร้างขึ้นมาใหม่ จึงเหลือไว้ให้ได้ชมเพียงเท่านี้

จากจุดที่เคยเป็นที่ตั้งของปราสาทในอดีตนี้ จะสามารถมองเห็นวิวเมืองเซนได้ได้แบบ Panorama เลย

สามารถมองเห็นรูปปั้นเจ้าแม่กวนอิม Sendai Daikannon ได้จากบนนี้ด้วยเช่นกัน

รวมถึงเป็นที่ตั้งของรูปปั้นท่านดาเตะ (Date Masamune) ผู้ปกครองแคว้นเซนไดแห่งนี้ด้วย

อยู่บนบริเวณปราสาทเซนไดจนตะวันลับฟ้า จากนั้นพวกเราก็นั่งรถ Loople Bus จากป้ายที่ 6 ว่าจะไปลงป้ายที่ 13 นั่นคือ Jozenji Dori แต่กว่าจะไปถึงก็มืดไปซะก่อน พวกเราจึงเปลี่ยนแผนเดินข้ามถนนมาย่านช้อปปิ้งฝั่งตรงข้ามที่ Ichibancho Shopping Mall หรือ Sun Mall Ichibancho นั่นเอง

วันนี้เป็นวันฮาโลวีนพอดี ถนนเส้นช้อปปิ้งแห่งนี้บรรยากาศคึกคักมาก นอกจากจะมีร้านรวงให้เดินเข้าออกช้อปกันจนปวดเท้าแล้ว ยังเต็มไปด้วยหนุ่มสาวคอสผีกันมาแบบจัดเต็ม บางคนก็เพ้นท์หน้ามาแบบง่ายๆ น่ารักๆ บางคนก้แปลกๆ บางคนเอากล่องมาคลุมหัวดูคล้ายทีวีเดินได้ สร้างบรรยากาศได้คึกครื้นยิ่งนัก ที่นี่เด็กๆทุกคนเป็นมิตรมาก ยินดีให้เราถ่ายรูปกันอย่างเต็มใจ บางคนเราไปถ่ายรูปเค้า ถ่ายเสร็จเค้าดันให้อมยิ้มเราเป็นการตอบแทนอีก น่ารักมากๆ

เดินผ่านตู้กด ของในตู้หลากหลายล่อใจมาก ต้องแวะกดเล่นสักหน่อย

กดไปก็หลาย….ไม่ได้อะไรเล่อะ!!!!!

ก็ได้แต่ยืนมองของน่ารักๆ ในตู้ต่อไป จากนั้นก็แยกย้ายกันไปพักผ่อน วันพรุ่งนี้เราจะไปล่องเรือชมอ่าวมัตสึชิม่ากันต่อ เจอกันใหม่วันพรุ่งนี้ โอยาสุมินาไซจ้าาาา…….

เที่ยวญี่ปุ่น ใบไม้เปลี่ยนสี by DeeryArch.me