เนื่องจากเมื่อวานทนหนาวกันแทบไม่ได้ เช้านี้เลยต้องมาเริ่มทริปกันที่ตลาดทงแดมุน เพื่อหาซื้อชุดกันหนาวเพิ่มเติม

ตลาดที่ไปเป็นตลาดในร่มแบ่งเป็นตรอกเล็กๆ เดินดูของไปเรื่อยๆ

จนมาเจอเจ๊คนนี้ เจ๊พูดอังกฤษแทบไม่ได้เลย แต่สามารถปิดการขายคนในทีมเราไปได้ถึง 4 คน เจ๊เมพมาก เจ๊ใช้ภาษากายและ sound effect ได้ดีมาก ถึงเนื้อถึงตัวสุดๆ คุยกะพวกเราเหมือนเคยรู้จักกันมาก่อน กรณีเราเองจะไปซื้อกางเกงสกี มันยาวไปหน่อย เจ๊ทำมือบอกว่าไม่เกินคืบเอง ต่อจากนั้นก็ตั้งมือเป็นท่าผ่าแตงโม วางในระดับเป้าเรา และเลื่อนขึ้นทำเสียง ฉึก!!! เป็นการบอกว่าพอใส่เข้าเป้า เข้าร่องเข้ารอยก็โอเคนะ ไม่ซื้อไม่ได้เลยทีนี้ ปิดการขายไปอย่างสมบูรณ์ ……ยกนิ้วให้กับความเมพของเจ๊

ไปทงแดมุนแล้ว ต่อจากนั้นพวกเราจะไปชมพระราชวังชาด๊อกกุง ระหว่างทางแวะกินข้าวตรงทางขึ้นซับเวย์ anguk ประตู3 ทางเดียวกะทางไปชางด๊อกกุง ร้านนี้เราว่าโอเคนะ อร่อยดี ไปซ้ำมาตั้งสองรอบ อิอิ ร้านชื่อไรไม่รู้อ่านไม่ออก รู้แต่ว่าป้ายส้มๆ

พัดลมบ้านเค้า ถึงไม่มีใบพัด แต่ก็อย่าเอามือเปล่าไปจับนะจ๊ะ เพราะมันร้อนนนนนน พวกเราเรียกกันว่า พัดลมสุริยะ

ภาพอาหารทั้งหมด Credit By พี่ตูน จ้าาา

กินเสร็จแล้วก็เดินต่อไปเพื่อจะไปวังชางด๊อกกุง

ถึงแล้วพระราชวังชางด๊อกกุง เป็นมรดกโลกเลยนะ …….ภาพนี้ โดย พี่ตูน

ทางเข้าประตูวังด้านใน

หิมะเพียบ!!!! เป็นวังที่บรรยากาศดี และสวยงามมาก

ภายในวังชางด๊อกกุงจะมีสวนลับ ชื่อว่าสวนบีวอน หากอยากเข้าชมต้องเสียค่าบัตรอีกที และต้องเข้าชมพร้อมไกด์ ไม่เปิดให้เข้าชมเอง (เท่าที่รู้มาคร่าวๆ วันพฤหัสจะเปิดให้เข้าชมเองได้)

ระหว่างทางเดินเพื่อไปซื้อบัตรเข้าสวนลับ

เนื่องจากวังนี้เป็นสถานที่ที่เป็นมรดกโลก คนที่อยู่ในภาพนั้นเป็นการ์ดที่คอยประกบกลุ่มนักท่องเที่ยวไม่ให้เลยเถิด หลงทาง หรือทำอะไรไม่เหมาะสม เค้าจะประกบอยู่ท้ายๆแถว จะให้อารมณ์เหมือนเวลาไปเดินดูของในร้านแล้วมีคนมาคอยเดินตามประมาณนั้น

ซื้อบัตรมาแล้ว Let’s Go………… เราเข้าไปพร้อมไกด์รอบภาษาเกาหลี รอรอบภาษาอังกฤษไม่ไหว ขอไปกะพวกชาวเกาหลีด้วยละกัน

กลุ่มเรารั้งท้ายตลอด เน้นเก็บภาพ เก็บบรรยากาศ เพราะไม่รู้เรื่องว่าเค้าพูดไรบ้าง

สวยดี ชอบมาก ถึงจะเดินเยอะหน่อย แต่บรรยากาศดีสุดๆ

เดินขึ้นเขาลงห้วยมากๆ ก็จะเป็นอย่างนี้

สวยมากกกก สวยเป็นบ้า

แม้จะเป็นเวลาบ่ายแก่ๆ แต่อุณหภูมิหนาวมากกก จนขนตาเป็นเกร็ดน้ำแข็ง

เดินมาเรื่อยๆ ไกด์พามาออกข้างวัง เป็นอันว่าเสร็จแล้ว วังนี้ใช้เวลาเที่ยวราวๆสองชั่วโมง เดินเยอะหน่อย แต่สำหรับคนที่ชอบศิลปะ ดูวัด ดูวัง คุ้มค่าแน่นอน

ออกจากวังมาหลบลมหนาวที่ตู้โทรศัพท์หน้าวัง

บรรยากาศในรถไฟใต้ดินเกาหลี …ต่อจากนี้เราจะไปอับกูจอง เพื่อตามหาตึก SM Entertainment ต้นสังกัดของ SNSD กัน เป็นที่รู้กันของโซวอนทั้งหลาย ถ้าได้มาเกาหลี ไม่ได้มาเยือนตึก SM เหมือนมาไม่ถึงนะจ๊ะ

นี่ไงตึก SM ไม่ใหญ่ไม่โตอะไร ทำเราและพี่ตูนเดินเลยไปถึง สามแยกไฟแดง พี่ตั๊กต้องเป็นหน่วยเดินตามหา ตามเรียกเราสองคนอีก มีแต่โซวอนตัวจริงอย่างโมมดเท่านั้น ที่มีเซนส์ และไม่เดินเลยเหนื่อยฟรีเหมือนเรา ตอนนั้นทรมาณมาก หนาวสุดๆ ปวดฉี่สุดๆ เดินเลยอีกต่างหาก บ๊ะ!!!

หลังจากเดินตามหาตึก SM แล้วเราทั้งห้าก็หลงทางกัน แบ่งเป็นสองกลุ่ม เนื่องจากมาแท็กซี่คนละคันคันของเราเลยไปหลบหนาวในโคเอ็กซ์มอลล์เพื่อตั้งหลักหา Wifi โพสต์เฟสบุคติดต่อกัน แต่ก็ยังไม่เจอกันอยู่ดี ทีมเราเลยอยากจะไปวัดพงอึนซาซึ่งเคยอ่านเจอมาว่าอยู่แค่เดินผ่านหน้าโคเอ็กซ์มอลล์ไปเท่านั้นเอง เราไปถามทางคนเกาหลี เค้าก็บอกทางไปตามประสา ปรากฏว่าเดินหลงวนถนนรอบโคเอ็กซ์เป็นวงกว้าง ขอย้ำว่าหลงเป็นวงกว้าง วนไปจนถึงคาสิโนเซเว่นลักซ์ รู้สึกสิ้นหวังเล็กน้อย จึงเข้าฉี่เพื่อทำใจในโรงแรมก่อน หลงเดินวนอยู่เกือบสองชั่วโมง จนหมดความหวัง และเราก็ได้เห็นป้าย you are here พงอึนซาาาาา!!!!!

นึกว่าจะไม่มีบุญมากราบไหว้พระพุทธรูปที่นี่ซะแล้ว อากาศก็หนาวมาก รู้สึกว่าวันนี้อากาศอยู่ที่ -17.8องศา เดินหนาวจนหูแทบหลุด

แม้จะเป็นเวลากลางคืนก็ชื่นใจที่ได้มากราบไหว้และได้มาเห็น เสียดายไม่มีขาตั้งกล้อง เลยถ่ายรูปออกมาได้ไม่ดีเท่าตาเห็น ได้มาแต่พระท่านเบลอๆไกลๆ แต่แค่นี้ก็โอเคแล้ว…….

จบหลักสูตร โซล102 ไปอย่างสุดเหวี่ยง ได้เดินหนาวในอุณหภูมิ -17.8 องศาเซลเซียส ครั้งแรก และขอหนาวแบบนี้ครั้งเดียวก็พอ หลังจากไหว้พระเสร็จแล้ว ก็ข้ามถนนไปหาอะไรกินในโคเอ็กซ์มอลล์ และก็กลับที่พัก ตอนข้ามถนนเจ็บใจมาก ใคร! ใคร! เป็นคนบอกทางช้านนนนน ตรงกันข้ามกันแค่นี้เองงงงง