เที่ยวพม่า มิงกะลาบา Golden Land(1) เยือนหงสาวดี อดีตราชธานีเมืองมอญ

มิงกะลาบา~คำกล่าวสวัสดีจากประเทศพม่า ครั้งนี้ได้มีโอกาสมาท่องเที่ยวพม่าอย่างจริงจังครั้งแรก แม้จะเป็นประเทศเพื่อนบ้านใกล้ๆ แต่ครั้งนี้ก็คงไม่ได้เที่ยวครั้งเดียวจบครบทั้งประเทศ ครั้งนี้คงเริ่มจากเมืองหลวงย่างกุ้ง (ขณะนี้ได้เปลี่ยนเมืองหลวงเป็น เนปิดอว์ แล้ว) และเมืองใกล้เคียงก่อน

หากนึกถึงพม่า เราก็จะนึกถึงสีทองอร่ามขององค์เจดีย์ที่มีมากมายในประเทศ เป็นที่มาของชื่อ Golden Land ดินแดนสีทองอร่าม ด้วยความเลื่อมใสในพระพุทธศาสนาของชาวพม่าที่มีมากล้น ในสมัยโบราณหากมีการสร้างวัดสร้างเจดีย์ พุทธศาสนิกชนทั้งหลายจะพร้อมใจกันสละของมีค่า เช่น ทองคำ หรืออัญมณี เพื่อมาประดับประดา ก่อร่างสร้างเจดีย์กันอย่างไม่มีหวงกันเลยล่ะ

ช่วงที่เราไปนั้นหากต้องการเดินทางท่องเข้าไปท่องเที่ยวประเทศพม่า ยังต้องมีการทำวีซ่าอยู่ หากต้องการทราบรายละเอียดเกี่ยวกับการทำวีซ่าเข้าประเทศพม่า เข้าไปดูได้ที่บทความนี้เลยจ้า >> วิธีขอวีซ่าพม่าด้วยตัวเอง

” Warmly Welcome to Myanmar “

รอยยิ้มละไม… 😀

มาถึงสนามบินย่างกุ้งตอนค่ำ เรียกแท็กซี่หน้าสนามบินเข้าที่พักได้เลย

มาถึงที่พัก เก็บสัมภาระเสร็จก็หาอะไรกินเลย

มาที่ตลาดกลางคืนแถวๆ ใกล้ที่พัก มาเจอกับร้านบาร์บีคิวที่มีให้เลือกหลากหลาย

มาลาฮีน (อาหารไทใหญ่)

จบด้วยเบียร์ประจำชาติ

บรรยากาศย่านตลาดกลางคืน

อรุณสวัสดิ์ย่างกุ้งยามเช้า…พวกเราได้เจอกับคนขับรถที่เราเช่าไว้เป็นครั้งแรก โดยทางผู้ให้เช่าแนะนำให้เรียกว่า อาโก ซึ่งแปลว่า พี่…

อาโกเป็น ผู้ชายร่างท้วม หน้านิ่งๆ แต่ใจดี อยากทำอะไร ถามอะไรก็ตอบหมด ถามได้แม้กระทั่งนักร้องคนไหน เพลงไหนฮิตสุดในตอนนี้เลยล่ะ 555 เห็นหน้านิ่งๆแบบนี้ แกเป็นคนยิ้มง่ายน้าาา 😀

ก่อนออกเดินทางจริงจัง อาโกพาพวกเรามากินอาหารเช้าที่ร้าน Lucky Seven

อาหารเช้าที่ร้าน Lucky Seven นี้มีเมนูค่อนข้างหลากหลาย และอร่อยหลายอย่าง อีกทั้งยังมีหลายสาขาด้วย ร้านนี้เราแนะนำ เด็ดจริงอะไรจริง!!

** ก่อนอื่น เราต้องบอกก่อนว่า เวลาเรากินอาหารแทบทุกมื้อ เราจะเรียกอาโกมากินด้วยกันตลอด พูดง่ายๆคือ เลี้ยงข้าวอาโกทุกมื้อน่ะแหละ ซึ่งเราไม่รู้หรอกว่าคนอื่นทำแบบนี้ไหม แต่พวกเราก็ทำมาตลอดทั้งทริปเลย **

ทานอาหารเช้าเรียบร้อยแล้ว วันนี้เราจะเริ่มเที่ยวกันที่เมือง Bago หรือเมืองหงสาวดี โดยที่หมายแรกนั่นคือ…

เจดีย์ไจ๊ก์ปุน (Kyaik Pun Pagoda)

Map: 17.304131, 96.458942

เจดีย์ไจ๊ก์ปุน (Kyaik Pun Pagoda) เจดีย์เก่าแก่อายุอานาม 500 กว่าปี ตั้งอยู่ที่เมือง Bago หรือที่คนไทยเรียกกันว่า เมืองหงสาวดี

เจดีย์ไจ๊ก์ปุน (Kyaik Pun Pagoda) เป็นเจดีย์พระพุทธรูปปางมารวิชัยขนาดใหญ่ 4 องค์ แต่ละองค์ หันพระพักตร์ไปทางทิศทั้ง 4 ทิศ

โดยแต่ละทิศนั้น สื่อถึงพระพุทธเจ้าในชาติต่างๆ ได้แก่ ทิศเหนือ-สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า, ทิศใต้-พระพุทธเจ้าโกนาคมโน,ทิศตะวันออก-พระพุทธเจ้ากกุสันโธ, และ ทิศตะวันตก-พระพุทธเจ้ามหากัสสป

ออกเดินทางเที่ยวกันต่อ

เจดีย์ชเวมอว์ดอว์ (Shwemawdaw Pagoda)

Map: 17.336936, 96.496670

เจดีย์ชเวมอว์ดอว์ (Shwemawdaw Pagoda) หรือพระธาตุมุเตาแห่งเมืองหงสาวดี ซึ่งถือเป็น 1 ใน 5 มหาบูชาสถานสูงสุดของพม่า

เจดีย์ชเวมอว์ดอว์ องค์เจดีย์เป็นศิลปะการก่อสร้างแบบมอญ ถือเป็นเจดีย์ที่อยู่คู่บ้านคู่เมืองหงสาวดีมาอย่างช้านาน โดยมีตำนานเล่าขานว่า พระเจ้าตะเบ็งชเวตี้ เคยทำพิธีเจาะหูที่เจดีย์ชเวมอว์ดอว์ หรือพระธาตุมุเตาแห่งนี้ เมื่ออายุอานามได้ 15 ปี

อีกชื่อหนึ่งของเจดีย์ชเวมอว์ดอว์ นั่นคือพระธาตุมุเตา คำว่า”มุเตา” นี้ มาจากภาษามอญ แปลว่า “จมูกร้อน” อาจเป็นเพราะการเปรียบเปรยว่า องค์เจดีย์มีความสูงเวลาแหงนหน้ามองดูยอดองค์เจดีย์จึงทำให้จมูกร้อนเพราะต้องกับแสงแดดนั่นเอง

ออกจากเจดีย์ชเวมอว์ดอว์ เดินทางสู่อีกหนึ่งสถานที่ไฮไลท์ของเมืองหงสาวดี…

พระราชวังบุเรงนอง (Kanbawza Thardhi Palace)

Map: 17.330252, 96.492832

ชาวไทยอย่างเราน้อยคนนักที่จะไม่รู้จักกับ “ผู้ชนะสิบทิศ” หรือ “พระเจ้าบุเรงนอง” กษัตริย์ผู้ยิ่งใหญ่ของพม่าอย่างแน่นอน ซึ่งพระเจ้าบุเรงนองได้รับสั่งให้สร้างพระราชวังแห่งนี้ขึ้นมาอย่างยิ่งใหญ่เพื่อเป็นศูนย์กลางทางการปกครอง

พระราชวังเดิมประกอบไปด้วยห้องโถงราว 76 ห้อง ปัจจุบันพระราชวังที่เราได้รับชมกันนั้น เป็นการสร้างพระราชวังเลียนแบบของเดิมทับลงไป

ด้วยความที่เป็นพระราชวังที่สร้างเลียนแบบของเดิม ทำให้ไม่มีเครื่องใช้ หรือของใช้ส่วนตัวเก่าๆให้ได้ชมกัน

ต้นเสาที่ถูกเก็บไว้ให้ได้ชม

จนทุกวันนี้ก็ยังคงมีการขุดค้นซากโบราณสถานกันอยู่

ซากโบราณสถานบริเวณพระราชวังบุเรงนอง

ในสมัยก่อนอาณาเขตของพระราชวังมีความกว้างใหญ่มากแม้กระทั่งเจดีย์ชเวมอว์ดอว์ ยังอยู่ภายในเขตกำแพงพระราชวัง

กษัตริย์ 3 พระองค์ผู้ที่ได้รับยกย่องให้เป็นมหาราชาแห่งพม่า ได้แก่

พระเจ้าอเนาวรธา (พระเจ้าอโนรธา) กษัตริย์แห่งอาณาจักรพุกาม ในรัชสมัยของพระองค์ศาสนาพุทธนิกายเถรวาทมีความเจริญรุ่งเรืองมาก และเป็นศาสนาประจำชาติมาจนถึงทุกวันนี้ มีการสร้างวัด สร้างเจดีย์ขึ้นมากมาย จนได้รับสมญานามว่าเป็นดินแดนแห่งทะเลเจดีย์

พระเจ้าบุเรงนอง หรือ ผู้ชนะสิบทิศ กษัตริย์แห่งอาณาจักรตองอูที่เรารู้จักกันดีในวรรณกรรมชื่อดัง ในรัชสมัยของพระองค์นั้นมีการขยายอาณานิคมไปอย่างกว้างขวาง ทั้งล้านช้าง ล้านนา จนกระทั่งถึงกรุงศรีอยุธยา อีกทั้งพระองค์ยังสามารถปราบกบฏชาวมอญขยายอาณาจักรตองอูและเกือบจะยึดยะไข่ได้สำเร็จ แต่ทรงเสด็จสวรรคตไปเสียก่อน

พระเจ้าอลองพญา หรือ อองไจยะ กษัตริย์แห่งอาณาจักรคองบอง ในรัชสมัยของพระองค์ทรงรวบรวมบ้านเมืองให้เป็นปึกแผ่น ขับไล่ชาวอังกฤษและฝรั่งเศส ตีเมืองตะเกิงที่เป็นเมืองท่าได้ และเปลี่ยนชื่อใหม่เป็น “ย่างกุ้ง”

พระราชวังสร้างอาคารขึ้นเป็น 2 ส่วนแยกกัน ได้แก่ ส่วนที่ใช้ว่าราชการ (Kanbawza Thardhi) หรือที่คนไทยเรียกกันว่า กัมโพชธานี และส่วนบัลลังก์ผึ้ง (Bee Throne Hall) ซึ่งใช้เป็นที่บรรทม พักผ่อนนั่นเอง

บัลลังก์ผึ้ง (Bee Throne Hall)

ฐานของบัลลังก์เป็นรูปผึ้งจริงๆด้วย

แบบจำลองบัลลังก์ผึ้ง

แบบจำลองหอบรรทม

หากเข้าไปดูใกล้ๆ จะรู้สึกได้ว่าเป็นของทำมาใหม่ แต่สำหรับเราไม่เสียหายอะไรนะ อย่างน้อยก็พอให้ได้จินตนาการได้

ออกจากพระราชวังบุเรงนอง ข้ามแม่น้ำสะโตง (Sittaung River) เข้าสู่เขตรัฐมอญ โดยบทความถัดไปเราจะเข้าเมือง Kyaikto ไปต่อรถขนหมูขึ้นไปสักการะพระธาตุอินทร์แขวนกัน